ผักนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่การรับประทานผักสดหรือผักดิบ จะต้องคำนึงถึงสารเคมีเคลือบอยู่ที่ตัวผักด้วย นอกเสียจากจะทานผักปลอดสารพิษจริงๆ นอกจากสารพิษจากสารเคมีแล้ว ผักที่เรารับประทานเข้านั้นก็มีความเป็นพิษอยู่ในตัวของมันเองด้วย แล้วผักชนิดใดบ้างที่มีพิษในตัว ควรรู้ไว้จะได้ระวังตัวในการรับประทานผักนั้น
ผักที่มีพิษในตัวเอง
ผักมีประโยชน์หากรู้จักรับประทานอย่างเหมาะสมและถูกวิธี ผักบางชนิดมีพิษในตัวเองไม่ควรทานสด ควรผ่านการปรุงสุกเท่านั้น มีอยู่ 4 ชนิดได้แก่
1.กะหล่ำปลี
ผักที่มีวิตามินซีสูง แนะนำว่าควรรับประทานกะหล่ำปลีแบบปรุงสุกเนื่องจากกะหล่ำปลีมีสารที่เป็นพิษ ได้แก่
- สารออกซาเลต เมื่อมีการรับประทานกะหล่ำปลีดิบ ๆ ในปริมาณมาก จะเข้าไปที่กรวยไต อาจจะทำให้เกิดโรคนิ่วขึ้นได้
- สารกอยโตรเจน ขัดขวางการดูดซึมไอโอดีนของต่อมไทรอยด์ทำ ให้การทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปกติ
อย่างไรก็ตามความเป็นพิษของสารดังกล่าวไม่ได้รุนแรงหากรับประทานไม่เกิน 20 กิโลกรัมต่อวัน หรือความเป็นพิษจะต้องได้รับ 0.4 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ซึ่งในกะหล่ำปลี 1 กิโลกรัม มีสารที่เป็นพิษเพียง 0.1 มิลลิกรัม
2. ถั่วฝักยาว
มีคุณค่าทางโภชนาการสูงอุดมไปด้วย แร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญ
- ไกลโคโปรตีน และ เลคติน สูง สารชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง และเกิดอาการท้องเสียได้ในระยะเวลา 3 ชั่วโมง
- ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และมีเทน ก๊าซเหล่านี้ทำให้เกิดกรดเกินในกระเพาะอาหาร ทำให้ท้องอืดและระบบย่อยอาหารมีปัญหาได้
3. หน่อไม้
มีคุณค่าทางอาหารสูง และยังมีการกใยอาหารที่ช่วยให้ร่างกายนำกากและสารพิษออกมาภายนอกได้เร็ว
- สารไซยาไนด์ หากรับเข้าไปในปริมาณน้อยจะถูกร่างกายขับออก แต่หากได้รับในปริมาณมาก สารไซยาไนด์จะจับกับฮีโมโกลบิน ทำให้ร่างกายเกิดอาการขาดออกซิเจน เวียนหัว หายใจถี่ ปวด ท้อง อาเจียน หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ ปริมาณของสารจะลดลงได้เมื่อนำไปผ่านความร้อน จะลดลงมากขึ้นหากผ่านความร้อนอย่างน้อย 10 นาที
4. ผักโขม
- กรดออกซาลิก เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปจับกับแคลเซียมและธาตุเหล็กในลำไส้ใหญ่หรือไต เกิดเป็นแคลเซียมออกซาเลตและไอออนออกซาเลต ปกติร่างกายขับออกได้เอง แต่หากรับประทานปริมาณมาก อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นนิ่วไตได้ การต้มผักก่อนกินสามารถลดปริมาณออกซาเลตได้มากกว่า วิธีการประกอบอาหารอื่นๆ
จากข้อมูลข้างตน คงทำให้คนที่ชอบทานผักทั้ง 4 ชนิด นี้แบบสด หันมาใส่ใจเรื่องของปริมาณการรับประทานในแต่ละมื้อและกรรมวิธประกอบอาหาร จะได้ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย
